วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2566

โครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยยางอำเภอวิเชียรบุรี

 

            เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2566 ณ หอประชุมอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์  นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธาน เปิดโครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยยางอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบูรณ์ ภายใต้โครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ครั้งที่ 1

          โดยมีนายเกื้อศักดิ์ ทาทอง วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ ผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายวิทยา รัตนมณี ปลัดอาวุโสอำเภอวิเชียรบุรี กล่าวต้อนรับ มีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการในระดับภูมิภาค จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน สถาบันการศึกษาศาสนสถาน ประชาชนในพื้นที่ศึกษาโครงการ สื่อมวลชน ตลอดจนประชาชนผู้ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 200 คน ทั้งนี้เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์ต่อโครงการฯ และให้การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยยาง เป็นไปด้วยความถูกต้องตามหลักวิชาการและมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ

     ซึ่งจากปัญหาการขาดแคลนน้ำและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสักจังหวัดเพชรบูรณ์ และปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสักเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ประกอบกับที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทาน พระราชดำริ เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ว่า "ควรพิจารณาวางโครงการ เก็บกักน้ำตอนบนของลำน้ำสาขาแม่น้ำป่าสัก

        เพื่อใช้ด้านการเกษตรและป้องกันอุทกภัย เนื่องจากน้ำเหนือเขื่อนป่าสักฯ มีปริมาณมากและให้พิจารณาจัดเก็บให้เหมาะสม" กรมชลประทาน จึงมีแผนพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดกลางเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์รวม 19 โครงการ โดยมีอ่างเก็บน้ำห้วยยาง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอวิเชียรบุรี และอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำยา อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นโครงการในแผนดังกล่าว

         โดยมอบหมายให้ บริษัทสามารถ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด และบริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยมีระยะเวลาปฏิบัติงาน 540 วัน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนเมษายน 2568 ทั้งนี้เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้สำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตร โดยเฉพาะในฤดูแล้งซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นประจำทุกปี และเพื่อบรรเทาอุทกภัย ชะลอน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากอีกด้วย. 







นที  บุญรอด/เพชรบูรณ์ไทม์

 


นักท่องเที่ยวแต่งชุดไทหล่มร่วมทำบุญตักบาตรยามเช้า ในกิจกรรม"วิถีไทหล่ม ตักบาตร รับลมหนาว"

 

         เพชรบูรณ์-นักท่องเที่ยวแต่งชุดไทหล่มฝ่าลมหนาวร่วมทำบุญตักบาตรยามเช้า ในกิจกรรม"วิถีไทหล่ม ตักบาตร รับลมหนาว"  ที่ถนนคนเดินไทหล่ม ส่งเสริมขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่นชุมชนไทหล่ม รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์

          วันที่ 23 ธันวาคม 2566 พุทธศาสนิกชนจากในอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และจากพื้นที่อื่นๆ รวมถึงนักท่องเที่ยว  ได้พร้อมใจกันตื่นตั้งแต่เช้าเตรียมสำรับอาหารทั้งคาวหวานเพื่อมาทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ที่ออกมาบิณฑบาตรบริเวณหน้าบ้านไม้โบราณในถนนคนเดินไทหล่ม  ในกิจกรรม "วิถีไทหล่ม ตักบาตร รับลมหนาว"  ท่ามกลางสภาพอากาศจะหนาวเย็น  จากอิทธิพลบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่ที่แผ่ลงมาปกคลุมทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยช่วงเช้าอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 16-20 องศาเซลเซียล จัดโดยเทศบาลหล่มสัก โดยนายกิตติ พั้วช่วย นายกเทศมนตรีเมืองหล่มสัก ร่วมกับสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์

       โดยนางสาว วรรณิภา เด่นโรจน์มณี นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์  กล่าวว่า  การจัดกิจกรรม"วิถีไทหล่ม ตักบาตร รับลมหนาว"  เพื่อส่งเสริมขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่นชุมชนไทหล่ม ชวนกันนุ่งผ้าซิ่น ไทหล่ม  ตักบาตรรับลมหนาว  รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์ ทุกเช้าวันเสาร์ เวลา 06.00-07.00   ณ บริเวณเส้นทางถนนรณกิจ (ถนนคนเดินไทหล่ม)

        ด้วยการแต่งกายแบบไทหล่มร่วมทำบุญตักบาตรยามเช้าแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอหล่มสักและใก้ลเคียงได้อีกด้วย อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์ ซึ่งรวบรวมเรื่องราว ความเป็นมา และวิถีชีวิตของเมืองหล่มสักเอาไว้ นำมาจัดแสดงให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ไม่สูญหายไปตามกาลเวลา

         จากนั้นไปสักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเกียรติคุณความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละของท่าน ที่ปัจจุบันกลายเป็นที่เคารพสักการะของชาวหล่มสัก ตั้งอยู่​สวยงามโดดเด่น​ในจุดที่เป็นจุดเชื่อมต่อ​ระหว่าง​ 3 ภูมิภาค​ คือ ภาคเหนือ​ ภาคอีสาน และภาคกลาง เสร็จแล้วเดินทางไปที่ อนุสรณ์สถานเมืองราด ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยโปร่ง ตำบลบ้านหวาย อำเภอหล่มสัก สร้างขึ้นเพื่อขึ้นเป็นเกียรติประวัติแด่พ่อขุนผาเมือง และบุคคลสำคัญในการสร้างชาติไทย

        ซึ่งภายในจะมีพิพิธภัณฑ์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าสนใจ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ในยุคโบราณที่หาชมได้ยาก เหมาะกับการพาลูกหลานมาเที่ยวแบบได้ความรู้อีกด้วย  นอกจากนั้นยังสามารถแวะชมสะพานสวยแปลกตา มองดูบรรยากาศรายล้อมด้วยธรรมชาติเหมือนต่างประเทศเลยที่ ‘สะพานห้วยตอง’ หรือ ‘สะพานพ่อขุนผาเมือง’ ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมต่อภาคเหนือกับภาคอีสานของทางหลวงหมายเลข 12 พาดเป็นแนวโค้งระหว่างหุบเขา ดูสวยงามจนกลายเป็นทางผ่านที่ต้องแวะชมและในช่วงเย็นกลับมาที่คนเดินไทหล่มอีกครั้งเพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนท้องถิ่นผ่านถนนคนเดินไทหล่ม ตลาดนัดน่าเดินบนถนนรณกิจ ถนนสายเก่าแก่ของอำเภอหล่มสัก

          ซึ่งตลอดสองฟากฝั่งถนนยังคงความคลาสสิกของบ้านเรือนไม้โบราณ 2 ชั้นไว้ให้เห็นอย่างงามตา สีสันความคึกคักของถนนคนเดินไทหล่มจะเริ่มต้นทุกเย็นวันเสาร์ตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปจนถึง 4 ทุ่มเพลิดเพลินไปกับการออกร้านต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าชาวหล่มสัก ทั้งร้านจำหน่ายอาหารพื้นเมืองที่หารับประทานยากเช่น ขนมจีนไทหล่ม ปิ้งไก่ข้าวเบือ ข้าวหลามพญาลืมแกง ฯลฯ สินค้าพื้นเมือง เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าทำมือของชาวบ้านที่สามารถซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก

          นอกจากนี้ยังมีการแสดงทางวัฒนธรรม ซุ้มสาธิตการตีมีดโบราณ จากกลุ่มตีมีดบ้านใหม่ที่สืบทอดช่างฝีมือมานานนับ 100 ปี จากช่างชาวเวียงจันทน์ การแสดงดนตรีพื้นเมือง ตลอดจนกิจกรรมรำวงย้อนยุคให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวร่วมรำวงกันอย่างสนุกสนานถือเป็นทริปการท่องเที่ยวในหนึ่งวันที่ครบถ้วนเป็นอย่างยิ่ง

         รวมถึงสามารถที่จะเดินทางไปเที่ยวต่อที่เขาค้อ ภูทับเบิกและน้ำหนาวได้อีกด้วย จึงอยากขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ได้สัมผัส สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวสามารถสอบถามได้ที่สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ โทร 081-6802599.



นที  บุญรอด/เพชรบูรณ์ไทม์

 


วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำยาอำเภอหล่มเก่า

 

       เพชรบูรณ์-โครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำยาอำเภอหล่มเก่า ให้เป็นไปด้วยความถูกต้องตามหลักวิชาการและมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ

        เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ณ หอประชุมอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์  นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธาน เปิดโครงการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่1 โครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำยา อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายเกื้อศักดิ์ ทาทอง วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายเสกสรร กลิ่นพูน นายอำเภอหล่มเก่า กล่าวต้อนรับ มีคณะบริษัทที่ปรึกษา หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทาน และชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบพร้อมด้วยสื่อมวลชนเข้าร่วมงานพร้อมเปิดเวทีการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีจุดให้แสดงข้อกังวล และความคาดหวัง เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์ต่อโครงการฯ ทั้งนี้เพื่อให้การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำยา เป็นไปด้วยความถูกต้องตามหลักวิชาการและมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ


         จากปัญหาการขาดแคลนน้ำและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสักจังหวัดเพชรบูรณ์ และปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสักเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ประกอบกับที่พระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระราชดำริ เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ว่า "ควรพิจารณาวางโครงการเก็บกักน้ำตอนบนของลำน้ำสาขาแม่น้ำป่าสัก เพื่อใช้ด้านการเกษตรและป้องกันอุทกภัย

       เนื่องจากน้ำเหนือเขื่อนป่าสักฯ มีปริมาณมากและให้พิจารณาจัดเก็บให้เหมาะสม"กรมชลประทาน จึงมีแผนพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดกลางเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวม 19 โครงการ โดยมีอ่างเก็บน้ำห้วยยางอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอวิเชียรบุรี และอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำยา อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นโครงการในแผนดังกล่าวด้วย และได้มอบหมายให้บริษัท สามารถ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด และบริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด ดำเนินงานศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นอ่างเก็บน้ำห้วยยาง และความเหมาะสมประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำยามีระยะเวลาปฏิบัติงาน 540 วัน

       เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนเมษายน 2568 ในส่วนโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำยา อำเภอหล่มเก่า สำนักบริหารโครงการกรมชลประทานได้จัดทำรายงานการศึกษาเบื้องต้น โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำยา แล้วเสร็จเมื่อปี 2563 จากผลการศึกษาเบื้องตัน พบว่าพื้นที่ หัวงานและอ่างเก็บน้ำอยู่ในพื้นที่ชั้นคุณภาพ ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเรือ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกซำซางในเขตป่าอนุรักษ์เพิ่มเติม โซน จึงเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามกฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตามขั้นตอน เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตให้ใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการ






เพชรบูรณ์ไทม์

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ลงพื้นที่สอดส่องโครงการก่อสร้างผนังกั้นน้ำอุทยานเพชบุระ

 

      เพชรบูรณ์-ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ประชุม ก.ธ.จ. เพชรบูรณ์ พร้อมลงพื้นที่สอดส่องโครงการก่อสร้างผนังกั้นน้ำอุทยานเพชบุระ งบประมาณ 18 ล้านบาท  

      วันที่ 21 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมเมืองราด ชั้น 5 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นางชื่นชีวัน ลิมป์ธีระกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 17 ในฐานะประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานประชุม คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 3/2566 โดยมี คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามข้อมูลผลความคืบหน้าในการพิจารณาแผนงาน/โครงการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของจังหวัดเพชรบูรณ์ และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์  


      โดยการประชุมในวันนี้ได้มีการติดตามการดำเนินงานตามมติที่ประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 2/2566 อาทิ เรื่องการช่วยเหลือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ Product Champion เพื่อจัดเตรียมช่องทางการตลาด โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ได้มีการขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีความร่วมมือในการจำหน่ายสินค้าเข้าสู่สถานประกอบการ ค้าปลีก ค้าส่ง อาทิ บริษัท เซ็นทรัลฯ บริษัท เลม่อนฟาร์ม บริษัท แม็คโคร เป็นต้น มีการติดตามผลการสอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จากการตรวจติดตาม สอดส่องของ ก.ธ.จ. เพชรบูรณ์ ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใดในทุกโครงการ นอกจากนี้ ยังได้ติดตามผลการใช้จ่ายงบประมาณของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ 2566 พร้อมพิจารณาคัดเลือกแผนงาน /โครงการ ประจำปีงบประมาณ 2567 และมอบหมายภารกิจและพื้นที่รับผิดชอบ ให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าไปสอดส่องการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานโครงการที่วางไว้  

       จากนั้น เวลา 13.30 นางชื่นชีวัน ลิมป์ธีระกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 17 พร้อมคณะ ลงพื้นที่สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดเพชรบูรณ์ ปีงบประมาณ 2566 โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และผนังกั้นน้ำบริเวณอุทยานเพชบุระ (พระใหญ่) งบประมาณ 18,660,000 บาท มีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ซึ่งการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด มีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2567





ปชส.เพชรบูรณ์/เพชรบูรณ์ไทม์

 


กมธ.พัฒนาการเมืองฯ จัดเสวนา “ผู้นำยุคใหม่ ห่วงใยบ้านเมือง สร้างจิตสำนึกในการรักษาวัฒนธรรมของไทย

 

        กมธ.พัฒนาการเมืองฯ จัดเสวนา “ผู้นำยุคใหม่ ห่วงใยบ้านเมือง และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน 4 ภาค” เพื่อสร้างจิตสำนึกในการรักษาวัฒนธรรมของไทย

     วันที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสัมมนา B1-1 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะทำงานเตรียมความพร้อมการจัดเวทีเสวนาฯ จัดเสวนาเรื่อง “ผู้นำยุคใหม่ ห่วงใยบ้านเมือง และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน 4 ภาค”

        โดยมี นายพลเดช ปิ่นประทีป โฆษกคณะกรรมาธิการฯ และประธานคณะอนุกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นประธานเปิดการเสวนา มีสมาชิกวุฒิสภา เครือข่ายครอบครัวการเมืองวิถีใหม่ เยาวชนจาก 4 ภูมิภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ เข้าร่วม โดยมี ศ.ดร. สุชาติ  อุทัยวัฒน์ ประธานคณะทำงานเตรียมความพร้อมการจัดเสวนาเป็นผู้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้


         นายพลเดช ปิ่นประทีป โฆษกคณะกรรมาธิการการฯ และประธานคณะอนุกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เยาวชนจะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เผยแพร่ Soft Power ด้านวัฒนธรรม คือ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน 4 ภาค ให้แก่ผู้เข้าร่วมการเสวนาและเป็นการสร้างพลังความสามัคคี ไม่เกิดความแตกแยกทางการเมือง รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาการเมืองอย่างยั่งยืน ถือเป็นโอกาสในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน 4 ภาค ที่เป็น Soft Power อันจะเป็นการสร้างพลังความสามัคคีอีกทางหนึ่งด้วย ภายในงานเสวนามีการบรรยายพิเศษเรื่อง “การมีส่วนร่วมของเครือข่ายการเมืองวิถีใหม่ 4 ภาค”

          โดย นายพลเดช ปิ่นประทีป โฆษกคณะกรรมาธิการฯ และประธานคณะอนุกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน เวทีการเสวนาเรื่อง “ผู้นายุคใหม่ ห่วงใยบ้านเมือง” ซึ่งมีการอภิปรายและแลกเปลี่ยนความเห็นจากผู้แทนเยาวชน 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน “กลองสะบัดชัยและฟ้อนขันดอก” จากภาคเหนือ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน “มโนราห์และดีเกร์ฮูลู” จากภาคใต้ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน “ลำโทนและลิเก” จากภาคกลาง และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน “หมอลำ หมอแคน เทิดพระเกียรติและกลองยาวชาวมหาสารคาม” จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

          ทั้งนี้การจัดเสวนาครั้งนี้เพื่อให้เยาวชนเกิดความรู้ความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การใช้ Soft Power ด้านวัฒนธรรม เป็นการสร้างพลังความสามัคคีส่งผลต่อการพัฒนาการเมืองอย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างจิตสาธารณะให้ผู้นำรุ่นใหม่มีความรับผิดชอบ เสียสละเพื่อส่วนรวม ยึดมั่นในจารีตประเพณี และความกตัญญูต่อสังคม  การเสวนาครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเสวนาทั้งสิ้น300 คนจากเครือข่ายทั้ง 4 ภาค.







นที  บุญรอด/เพชรบูรณ์ไทม์

 


หน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ กระทำสัตย์ปฏิญานตนต่อธงชัยเฉลิมพล ในวันกองทัพไทย

              เพชรบูรณ์ -  หน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์​   กระทำสัตย์ปฏิญานตนต่อธงชัยเฉลิมพล  เนื่องใน "วันกองทัพไทย"  ...